บันทึกกิจกรรมการเรียนการสอน ครั้งที่ 4

วันพฤหัสบดี ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2556

กิจกรรมในห้องเรียน

          อาจารย์ให้นักศึกษามาเรียนที่ห้อง 224 ก่อนนักศึกษาเข้าไปนั่งทีอาจารย์ให้ปั้มตัวการ์ตูนก่อนเข้าเรียน ซึ่งก็ต้องทำแบบนี้ทุกครั้งก่อนเข้าเรียนท้ายคาบเรียนอาจารย์ก็เช็คชื่ออีกรอบและอาจารย์ได้อธิบายยกตัวอย่างเรื่องของเด็กพิเศษที่เรียนในวันนี้ให้นักศึกษาเข้าใจง่ายมากขึ้น 

องค์ความรู้ในวันนี้

        มีประเภทของเด็กพิเศษ 4 ประเภทที่เรียนในวันนี้ ดังต่อไปนี้

รูปภาพ : เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์

รูปภาพ : เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้

รูปภาพ : เด็กออทิสติก

รูปภาพ : เด็กพิการซ้อน

สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม

         สาเหตุของความพิการซ้อน

         สาเหตุของความพิการซ้อนสาเหตุมีหลายประการ บางคนบกพร่องตั้งแต่ก่อนคลอด ระหว่างคลอดหรือหลัง

คลอด อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ยังไม่ทราบสาเหตุของสภาพความพิการซ้อนที่แน่ชัด

        1. ก่อนคลอดอาจจะมีความผิดปกติของโครโมโซม

        2. ระหว่างคลอดอาจจะมีการขาดออกซิเจน

        3. หลังคลอดได้รับอุบัติเหตุหรือได้รับสารพิษ

        4. สถานะภาพทางเศรษฐกิจและสังคมเด็กที่มีความบกพรองทางรางกายหรือสุขภาพและบกพรองทางสายตา

บันทึกกิจกรรมการเรียนการสอน ครั้งที่ 3

วันพฤหัสบดี ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2556

กิจกรรมในห้องเรียน

         วันนี้อาจารย์สอนประเภทของเด็กพิเศษ 2 ประเภท คือ เด็กที่มีความบกพร่องทางด้านร่างกายและสุขภาพ กับ เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา ดังนี้ต่อไปนี้

องค์ความรู้ในวันนี้

รูปภาพ : Mindmapping เด็กที่บกพร่องด้านร่างกายและสุขภาพ

เด็กที่บกพร่องทางการพูดและภาษา

         
         ความผิดปกติด้านการออกเสียง    
               - ออกเสียงผิดเพี้ยน
               - เพิ่มหน่วยของเสียงโดยไม่จำเป็น
               - เอาเสียงหนึ่งมาแทนที่อีกเสียงหนึ่ง
         
         ความผิดปกติด้านจังหวะเวลาของการพูด
               - การพูดติดอ่าง
               - การพูดรัว
        
        ความผิดปกติด้านเสียง
              - ระดับเสียง
              - ความดัง
              - คุณภาพของเสียง
        
        ความผิดปกติทางการพูดและภาษาเนื่องจากพยาธิที่สมอง
              1. Motor aphasia  เด็กเข้าใจคำถาม บอกชื่อสิ่งของพอได้ พูดไม่ถูกไวยากรณ์
              2. Wernicka 's aphasia ไม่เข้าใจคำถาม ออกเสียงติดขัด
              3. Conduction aphasia ออกเสียงไม่ติดขัด บอกชื่อสิ่งของไม่ได้ อัมพาตร่างกายซีกขวา
              4. Nominal aphasia ออกเสียงได้ เข้าใจคำถามดี บอกชื่อวัตถุไม่ได้ 
              5. Global aphasia ไม่เข้าใจภาษาพูด/ภาษาเขียน พูดไม่ได้
              6. Sensory aphasia เขียนเองไม่ได้ บอกชื่อวัตถุไม่ได้
              7. Motor agraphia เขียนตามคำบอกไม่ได้ ลอกตัวเขียนและตัวพิมพ์ไม่ได้ 
              8. Cortical alexia อ่านไม่ออก ไม่เข้าใจภาษา
              9. Motor alexia เข้าใจตัวหนังสือแต่อ่านไม่ได้
              10. Gerstmann's syndrome ไม่รู้ชื่อนิ้ว ไม่รู้ซ้าย/ขวา คำนวณไม่ได้ เขียนไม่ได้ อ่านไม่ออก
              11. Visual agnosia มองเห็นวัตถุแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร/ไม่รู้จัก
              12. Auditory ได้ยินแต่แปลความหมายของคำ/ประโยคไม่เข้าใจ

       ลักษณะของเด็กบกพร่องทางการพูดและภาษา
              1. มีปัญหาในการสื่อความหมาย พูดตะกุกตะกัก
              2. หลัง 5 ขวบ พูดยังไม่เป็นประโยค
              3. ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย
              4. ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ 10 เดือน
              5. ไม่พูดภายในอายุ 2 ขวบ
              6. ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
              7. มักเงียบผิดธรรมชาติ

สะท้อนสิ่งที่ได้รับจากการเรียน

       ทำให้ทราบว่าเด็กพิเศษแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร เด็กพิเศษถึงแม้เขาจะพิการทางร่างกายแต่จริงๆ แล้วจริงใจเด็กบางครั้งก็ไม่ได้พิการ เด็กยังต้องการความรัก ความอบอุ่นทั้งจากครอบครัวและสังคม ที่สำคัญเขายังต้องการการยอมรับในสังคมและการที่ให้เขาได้เรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะครูปฐมวัยต้องรักและเข้าใจ ไม่รังเกียจเด็กพิเศษ ต้องจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายให้เหมาะกับความสามารถของเด็กที่แตกต่างกัน

สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม

           

รูปภาพ : สาเหตุของความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ ข้อมูลจาก : http://www.ser01.com/page/disbody.htm

บันทึกกิจกรรมการเรียนการสอน ครั้งที่ 2

วันพฤหัสบดี ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2556

กิจกรรมในห้องเรียน

          วันนี้อาจารย์ตฤณ พานักศึกษามาเรียนที่ห้อง 224 จากที่เคยเรียนห้อง 434 เนื่องจากอุปกรณ์ภายในห้องไม่พร้อมและอาจารย์ได้แจกงาน Mindmapping เมื่อสัปดาห์ที่แล้วส่งคืนนักศึกษา

องค์ความรู้ในวันนี้

         อาจารย์ตฤณ ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม กลุ่มละ 9-10 คนและจับฉลากตามหัวข้อดังต่อไปนี้

         1. เด็กซีพี (*กลุ่มของข้าพเจ้า)

         2. เด็กดาวน์ซินโดม

         3. เด็กออทิสติก

         4. เด็กสมาธิสั้น

         5. เด็กแอลดี

         และอาจารย์ตฤณได้บรรยายพร้อม PowerPoint ในเรื่อง "เด็กที่มีความต้องการพิเศษ" ดังนี้

รูปภาพ : Chidren with special needs

 สะท้อนที่สิ่งได้รับจากการเรียน

       ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักเด็กพิเศษมากขึ้น เช่น เรื่องการอาการที่เด็กเป็น อาทิ เด็กที่ทำอะไรช้า-เด็กจะทำอะไรช้านั่นคือ ความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กล่าช้ากว่าเด็กปกติ เราก็ต้องค่อยๆ สอนเด็กอย่าใจร้อนและจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับเด็กส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้เท่าที่เขาจะทำได้

สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม

         การจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ

               การเรียนการสอน เป็นสิ่งที่ควรต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับเด็ก ก็คือการสอนทักษะการเคลื่อนไหว ทักษะการดารงชีวิตประจาวัน ต้องจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับสภาพของเด็กในหลาย ๆ กิจกรรมที่เด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพไม่สามารถกระทาได้เต็มที่ เช่น พลศึกษา

คัดลอกจาก : การจัดการศึกษาให้กับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

บันทึกกิจกรรมการเรียนการสอน ครั้งที่ 1

วันพฤหัสบดี ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2556

กิจกรรมในห้องเรียน

          วันนี้เป็นวันแรกของการเรียนวิชา การอบรมเลี้ยงดูปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ เนื่องจากเป็นสัปดาห์แรกของการเปิดเทอม อาจารย์ตฤณ  แจ่มถิ่นและนักศึกษาเซค 102 อาจารย์แจก แนวการสอน (Course Syllabus) และร่วมกันสร้างข้อตกลงในรายวิชาและการใช้ห้องเรียน ดังนี้

รูปภาพ : ข้อตกลงการเรียนวิชานี้

องค์ความรู้ในวันนี้

        อาจารย์ตฤณ แจกกระดาษ A4 ให้นักศึกษาทำ Mindmapping ในหัวข้อ "พื้นฐานความรู้เกี่ยวกับเด็กพิเศษที่นักศึกษารู้จะจัก" ?  เพื่อดูพื้นฐานความรู้เดิมของนักศึกษาว่ามีความรู้เรื่องเด็กพิเศษมากน้อยเพียงไร

รูปภาพ : ความรู้พื้นฐานของข้าพเจ้าเกี่ยวกับเด็กพิเศษ

สะท้อนสิ่งที่ได้รับจากการเรียน

        ข้าพเจ้ายังมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเด็กพิเศษไม่มากเท่าที่ควร ข้าพเจ้าต้องมั่นศึกษาเพิ่มเติมและหาเวลาว่างทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กพิเศษต่างๆ และได้ฝึกการแต่งตัวให้เรียบร้อยเวลาเข้าชั้นเรียนทุกครั้ง

งานที่ได้รับมอบหมายวันนี้

          1. (งานเดี่ยว) ให้นักศึกษาทุกคนหาวิจัยเกี่ยวกับเด็กพิเศษ พร้อมสรุป (ซ้ำได้ 2 คนต่อ 1 เรื่อง) พร้อมส่งในสัปดาห์ที่ 12-13 

          2. (งานเดียว) ให้นักศึกษาทุกคนบันทึกอนุทินลงใน Blogger ของตนเอง

          3. (งานกลุ่ม) แบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม กลุ่มละ 9-10 แบ่งตามประเภทของเด็กพิเศษที่กลุ่มตนเองจับฉลากได้

สิ่งที่ค้นคว้าเพิ่มเติม

         ความหมายของเด็กพิเศษ หมายถึง เด็กที่ไม่อาจพัฒนาความสามารถได้เท่าที่ควรจากการเรียนการสอนตามปกติ มีสาเหตุจากสภาพตามความบกพร่องทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา จำเป็นต้องจัดการศึกษาให้เหมาะสมตามความบกพร่องของเด็ก

คัดลอกจาก : กิจกรรมการเรียนการสอนที่มีสภาวะความต้องการพิเศษ